التصنيفات
القرآن الكريم

المختصر في التفسير ภาษาไทย سورة [المائدة]

لَّقَدۡ كَفَرَ ٱلَّذِينَ قَالُوٓاْ إِنَّ ٱللَّهَ هُوَ ٱلۡمَسِيحُ ٱبۡنُ مَرۡيَمَۚ قُلۡ فَمَن يَمۡلِكُ مِنَ ٱللَّهِ شَيۡـًٔا إِنۡ أَرَادَ أَن يُهۡلِكَٱلۡمَسِيحَ ٱبۡنَ مَرۡيَمَ وَأُمَّهُۥ وَمَن فِي ٱلۡأَرۡضِ جَمِيعٗاۗ وَلِلَّهِ مُلۡكُ ٱلسَّمَٰوَٰتِ وَٱلۡأَرۡضِ وَمَا بَيۡنَهُمَاۚ يَخۡلُقُ مَايَشَآءُۚ وَٱللَّهُ عَلَىٰ كُلِّ شَيۡءٖ قَدِيرٞ

التايلندية | ภาษาไทย

แน่นอน บรรดาชาวคริสต์ที่กล่าวว่าแท้จริง อัลลอฮฺนั้นคือ อัลมะซีฮฺบุตรของมัรยัม พวกเขาได้ปฏิเสธศรัทธาแล้ว จงกล่าวเถิด –โอ้รอซูลเอ๋ย– แก่พวกเขาเถิดว่ามีผู้ใดบ้างที่สามารถยับยั้งอัลลอฮฺได้ หากพระองค์ทรงต้องการจะทำลายอัลมะซีฮฺบุตรของมัรยัม มารดาของเขา และผู้คนทั้งหมดในโลกนี้ และเมื่อไม่มีผู้ใดสามารถยับยั้งพระองค์ในเรื่องดังกล่าวได้ มันก็บ่งบอกว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ควรได้รับการเคารพอิบาดะฮฺนอกจากอัลลอฮฺเพียงพระองค์เดียวเท่านั้นและทั้งหมดทั้งอีซาบุตรของมัรยัม มารดาของเขา และสรรพสิ่งทั้งหลายล้วนเป็นสิ่งที่อัลลอฮฺสร้างทั้งสิ้น และกรรมสิทธิ์แห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินและสิ่งที่อยู่ระหว่างทั้งสองนั้นเป็นของอัลลอฮฺ พระองค์จะทรงสร้างสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ และส่วนหนึ่งจากผู้ที่พระองค์ได้ทรงประสงค์สร้างนั้นคือ อีซา อลัยฮิสสลาม โดยที่เขาเป็นบ่าวและรอซูลของพระองค์ พระองค์มีความสามารถเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง

مَّا ٱلۡمَسِيحُ ٱبۡنُ مَرۡيَمَ إِلَّا رَسُولٞ قَدۡ خَلَتۡ مِن قَبۡلِهِ ٱلرُّسُلُ وَأُمُّهُۥ صِدِّيقَةٞۖ كَانَا يَأۡكُلَانِ ٱلطَّعَامَۗ ٱنظُرۡكَيۡفَ نُبَيِّنُ لَهُمُ ٱلۡأٓيَٰتِ ثُمَّ ٱنظُرۡ أَنَّىٰ يُؤۡفَكُونَ

التايلندية | ภาษาไทย

อัลมะซีฮฺอีซาบุตรของมัรยัมนั้น มิใช่ใครอื่นใดนอกจากเป็นรอซูลคนหนึ่งในบรรดารอซูลทั้งหลาย เขาจะต้องประสบอย่างที่บรรดารอซูลทุกคนก่อนหน้าเคยประสบคือ เสียชีวิต และมารดาของเขาคือ มัรฺยัม ผู้มีความสัตย์จริงและน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก ซึ่งทั้งสองนั้นจะรับประทานอาหารเพื่อความอยู่รอด ดังนั้น ทั้งสองจะมาเป็นพระเจ้าได้อย่างไร ทั้ง  ที่ทั้งสองต้องพึ่งพาอาหารเพื่อความอยู่รอด?! ดังนั้นเจ้า –โอ้รอซูลเอ๋ย– จงพิจารณาเถิดว่าเราได้แจกแจงสัญญาณต่าง  ที่บ่งบอกถึงความเป็นเอกภาพของพระเจ้า และชี้แจงถึงความผิดพลาดของพวกเขาที่พาดพิงความเป็นพระเจ้าให้กับสิ่งอื่นจากอัลลอฮฺอย่างไร แต่ถึงกระนั้นพวกเขายังปฏิเสธสัญญาณต่าง  เหล่านี้ แล้วจงพิจารณาอีกว่าพวกเขาได้หันเหออกจากสัจธรรมได้อย่างไร ทั้ง ที่มีสัญญาณต่าง  อันชัดแจ้งที่บ่งบอกถึงความเป็นเอกภาพของอัลลอฮฺ

إِذۡ قَالَ ٱللَّهُ يَٰعِيسَى ٱبۡنَ مَرۡيَمَ ٱذۡكُرۡ نِعۡمَتِي عَلَيۡكَ وَعَلَىٰ وَٰلِدَتِكَ إِذۡ أَيَّدتُّكَ بِرُوحِ ٱلۡقُدُسِ تُكَلِّمُ ٱلنَّاسَفِي ٱلۡمَهۡدِ وَكَهۡلٗاۖ وَإِذۡ عَلَّمۡتُكَ ٱلۡكِتَٰبَ وَٱلۡحِكۡمَةَ وَٱلتَّوۡرَىٰةَ وَٱلۡإِنجِيلَۖ وَإِذۡ تَخۡلُقُ مِنَ ٱلطِّينِ كَهَيۡـَٔةِ ٱلطَّيۡرِبِإِذۡنِي فَتَنفُخُ فِيهَا فَتَكُونُ طَيۡرَۢا بِإِذۡنِيۖ وَتُبۡرِئُ ٱلۡأَكۡمَهَ وَٱلۡأَبۡرَصَ بِإِذۡنِيۖ وَإِذۡ تُخۡرِجُ ٱلۡمَوۡتَىٰ بِإِذۡنِيۖ وَإِذۡكَفَفۡتُ بَنِيٓ إِسۡرَـٰٓءِيلَ عَنكَ إِذۡ جِئۡتَهُم بِٱلۡبَيِّنَٰتِ فَقَالَ ٱلَّذِينَ كَفَرُواْ مِنۡهُمۡ إِنۡ هَٰذَآ إِلَّا سِحۡرٞ مُّبِينٞ

التايلندية | ภาษาไทย

จงรำลึกถึงขณะที่อัลลอฮฺทรงตรัสแก่อีซาว่าโอ้อีซาบุตรของมัรฺยัม จงรำลึกถึงความโปรดปรานของข้าที่มีต่อเจ้า ขณะที่ข้านั้นได้สร้างเจ้าขึ้นมาโดยไม่มีบิดา และจงรำถึงความโปรดปรานของข้าที่มีต่อมารดาของเจ้า ขณะที่ข้านั้นได้เลือกนางไว้เหนือบรรดาหญิงในยุคของนาง และจงรำลึกถึงสิ่งที่ข้านั้นได้โปรดปรานมันต่อเจ้า ขณะที่ข้าได้ทำให้เจ้ามีความเข้มแข็ง ด้วยญิบรีล อลัยฮิสลาม ทำให้เจ้านั้นพูดกับผู้คนได้ –ทั้ง  ที่เจ้านั้นยังเป็นทารก– โดยเชิญชวนเรียกร้องพวกเขาให้ไปสู่อัลลอฮฺ และเช่นเดียวกันให้เจ้าพูดกับพวกเขาในขณะช่วงวัยกลางคนของเจ้า ในสิ่งที่ข้านั้นได้ส่งเจ้าพร้อมกับมันไปยังพวกเขา และส่วนหนึ่งจากสิ่งที่ข้าได้โปรดปรานมันให้แก่เจ้า คือการที่ข้าได้สอนการขีดเขียนแก่เจ้า และข้าได้สอนเจ้าซึ่งคัมภีร์อัตเตารอตที่มันได้ถูกประทานลงมาให้แก่มูซา อลัยฮิสลาม และคัมภีร์อัลอินญีลที่ได้ถูกประทานลงมาให้แก่เจ้า และข้าก็ได้สอนเจ้าถึงจุดมุ่งหมายแห่งบัญญัติศาสนา ประโยชน์ของมัน และวิทยปัญญาของมัน และส่วนหนึ่งจากสิ่งที่ข้าได้โปรดปรานมันให้แก่เจ้า คือการที่เจ้านั้นปั้นรูปจากดินขึ้นมาดั่งรูปนก จากนั้นเจ้าก็เป่าเข้าไปในรูปนกนั้น แล้วมันก็กลายเป็นนก และได้ให้เจ้ารักษาคนที่ตาบอดตั้งแต่กำเนิด และคนที่เป็นโรคผิวหนังนั้นจนหายดีด้วยอนุมัติของข้า และการที่เจ้าได้ทำให้บรรดาคนตายนั้นฟื้นคืนชีพขึ้นมาด้วยกับคำขอพรของเจ้าต่ออัลลอฮฺ ทุกอย่างล้วนแล้วด้วยการอนุมัติของข้า และส่วนหนึ่งจากสิ่งที่ข้าได้โปรดปรานมันให้แก่เจ้า คือการที่ข้าได้ยับยั้งและหันเหบนีอิสรออีลออกจากเจ้า โดยที่พวกเขานั้นจงใจจะฆ่าเจ้า ครั้นเมื่อตอนที่เจ้าได้นำบรรดาหลักฐานอันชัดแจ้งมายังพวกเขา แล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นจากพวกเขาเว้นแต่เป็นผู้ที่ปฏิเสธมัน และพวกเขาก็กล่าวว่าสิ่งนี้ที่อีซานำมันมานั้นมิใช่สิ่งอื่นใด นอกจากมายากลอันชัดแจ้งเท่านั้น

وَإِذۡ قَالَ ٱللَّهُ يَٰعِيسَى ٱبۡنَ مَرۡيَمَ ءَأَنتَ قُلۡتَ لِلنَّاسِ ٱتَّخِذُونِي وَأُمِّيَ إِلَٰهَيۡنِ مِن دُونِ ٱللَّهِۖ قَالَ سُبۡحَٰنَكَمَا يَكُونُ لِيٓ أَنۡ أَقُولَ مَا لَيۡسَ لِي بِحَقٍّۚ إِن كُنتُ قُلۡتُهُۥ فَقَدۡ عَلِمۡتَهُۥۚ تَعۡلَمُ مَا فِي نَفۡسِي وَلَآ أَعۡلَمُ مَا فِينَفۡسِكَۚ إِنَّكَ أَنتَ عَلَّـٰمُ ٱلۡغُيُوبِ

التايلندية | ภาษาไทย

และจงรำลึกถึง ขณะที่อัลลอฮฺจะทรงตรัสในวันกิยามะฮฺ โดยการสนทนากับอีซาบุตรของมัรฺยัมว่าโอ้อีซาบุตรของมัรฺยัมเอ๋ย เจ้าได้พูดแก่ผู้คนกระนั้นหรือว่าจงยึดถือฉันและมารดาของฉันเป็นที่เคารพสักการะทั้งสองอื่นจากอัลลอฮฺแล้วอีซาก็ตอบโดยกล่าวให้ความบริสุทธิ์แด่พระผู้อภิบาลของเขาว่ามันไม่จำเป็นเลยสำหรับข้าพระองค์ที่จะต้องบอกกล่าวแก่พวกเขาเว้นเสียแต่ความจริง หากข้าพระองค์เคยกล่าวสิ่งนั้น แน่นอน พระองค์ย่อมรู้มันดี เพราะว่าแท้จริงแล้วไม่มีสิ่งใดที่สามารถซุกซ่อนต่อพระองค์ได้ พระองค์ทรงรู้สิ่งที่อยู่ในใจของข้าพระองค์ และข้าพระองค์ไม่รู้สิ่งที่อยู่ในใจของพระองค์ แท้จริง พระองค์ผู้เดียวเท่านั้นที่ทรงรอบรู้ในทุก  สิ่งที่เร้นลับ ในทุก  สิ่งที่ซุกซ่อน และในทุก  สิ่งที่เปิดเผย